“เชื่อกันว่าการกินแบบแมคโครไบโอติกส์นี้
จะเป็นการช่วยเพิ่มพลังชีวิต ทำให้ร่างกายสะอาด
บริสุทธิ์ ขับสารพิษในร่างกายออกมาให้หมด”
“แมคโครไบโอติกส์”
เป็นอีกคำหนึ่งที่มักจะได้ยินเมื่อพูดถึงเรื่องของการกินเพื่อล้างพิษ ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติของใครหลายๆ
คนอยู่ทุกวันนี้ เรามาทำความเข้าใจกันว่า
สิ่งที่เรียกว่าแมคโครไบโอติกส์นั้น คืออะไร
แล้วสามารถล้างพิษได้จริงหรือไม่กันดีกว่าครับ
คำว่า
“แมคโคร” หมายความว่า ยิ่งใหญ่ หรือยืนยาว ส่วนคำว่า “ไบโอ” หมายถึง ชีวิต
เมื่อนำคำ 2 คำมารวมกัน ก็จะเกิดคำใหม่ว่า แมคโครไบโอติกส์ ซึ่งมีความหมายว่า
การมีวิถีชีวิตที่ยิ่งใหญ่และยืนยาว
แนวทางที่สำคัญของแมคโครไบโอติกส์
คือ การกินอาหารที่มีพลังชีวติที่บริสุทธิ์
และเป็นธรรมชาติที่สุด
โดยหลีกเลี่ยงการทำให้สุกและไม่กินอาหารที่ผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรม
อีกทั้งในการกินอาหารแต่ละครั้ง ต้องเกิดความรู้สึกหิวเท่านั้น
ระหว่างการกินอาหารต้องมีอารมณ์สงบ
ถ้ามีอารมณ์โกรธและกังวลจะมีผลต่อการย่อยอาหาร ขณะกินอยู่นั้นให้นึกถึงที่มาของอาหาร ได้แก่
แสงแดด อากาศ น้ำ ธรรมชาติ กินอาหาร 2-3 มื้อต่อวันก็พอ
นอกจากนั้นในการกินแต่ละคำต้องเคี้ยวอาหารให้ละเอียดที่สุด 30-50 ครั้งต่อคำ
ทั้งหมดนั้นถือว่าเป็นหลักการสำคัญและเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตตามวิถีของแมคโครไบโอติกส์
นอกจากนั้นยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอย่างอื่นอีก
เช่น ไม่กินหลังตื่นนอนใหม่ๆ
หรือก่อนเข้านอน
ลดของเหลวและเครื่องดื่ม หลีกเลี่ยงหรือจำกัดอาหารจากสัตว์ใหญ่ นม ไข่
หลีกเลี่ยงการใชน้ำตาล หลีกเลี่ยงกาแฟ และแอลกอฮอล์ นิยมบริโภคผักสด ผลไม้สด
หลีกเลี่ยงการบริโภคผลไม้นอกฤดูกาล
หมุนเวียอาหารที่บริโภค
ภาชนะหุงต้มควรเป็นเครื่องปั้นดินเผาหรือสแตนเลส
หลีกเลี่ยงภาชนะอะลูมิเนียม หรือเคลือบเทฟลอน
สาเหตุที่คนเราหันมากินตามวิถีแมคโครไบโอติกส์นั้นเป็นเพราะเชื่อว่า การกินแบบแมคโครไบโอติส์นี้ จะเป็นการช่วยเพิ่มพลังชีวิต ทำให้ร่างกายสะอาด บริสุทธิ์
ขับสารพิษในร่างกายออกมาให้หมด
แต่ก็มีหลายคนเหมือนกันที่ยังไม่ค่อยเข้าใจในคำว่า “พลังชีวิต”
ว่าแท้ที่จริงแล้ว มันคืออะไร
แล้วแมคโครไบโอติกส์มีความสัมพันธ์กับพลังชีวิตอย่างไรกันแน่
พลังชีวิต
ก็คือ พลังที่เมล็ดพันธุ์พืชสามารถเอาชนะแรงโน้มถ่วงของโลก หยัดกายขึ้นเหนือผืนดิน นั้นแล อาหารที่ยังคงมีพลังชีวิต ก็คือ
อาหารที่ยังให้สิ่งเหล่านี้กับผู้คน ซึ่งแน่นอนว่า มันเป็นค่าของการเปรียบเทียบ
โดยแมคโครไบโอติส์ใช้หลักเกณฑ์ว่า อาหารพื้นฐานที่มาจากแม่ธรรมชาติ (Mother Earth) โดยตรงจะเปี่ยมพลังมากกว่า
ดังนั้น พื้ชจะให้พลังชีวิตที่ดีกว่าเนื้อสัตว์ เพราะสัตว์กินพืช
ถือเป็นขั้นตอนที่มาจากแหล่งธรรมชาติ หรือในกรณีน้ำดื่ม
แมคโครไบโอติกส์ก็เชื่อได้ว่า น้ำฝน
หรือน้ำจากลำธาร ถือว่ามีพลังชีวิตมากกว่าน้ำประปา
น้ำดิบมีพลังชีวิตมากกว่าน้ำต้มสุก
และน้ำต้มสุกมีพลลังมากกว่าน้ำต้มสุกค้างคืน ประมาณนี้
สำหรับอาหารประเภท
ธัญพืช อันได้แก่ ข้าว ถั่วต่างๆ นั้น โดยเฉพาะข้าวกล้อง หรือธัญพืชครบรูป
ถือกันว่าเป็นอาหารอันเปี่ยมพลังชีวิต เนื่องจากอาหารเหล่านี้เป็นอาหารพื้นฐานและยังสามารถงอกเป็นต้นอ่อนแพร่พันธุ์ต่อไปได้อีกด้วย
ซึ่งในกลุ่มธัญพืชนี้ก็มีการลดหลั่นของระดับพลังงานด้วย เช่น
ข้าวกล้องถือว่ามีพลังชีวิตมกกว่าข้าวขัดขาว
ข้าวขัดขาวมีพลังชีวิตมากกว่าข้าวหุงสำเร็จหรือข้าวกระป๋อง
นอกจากนั้นอาหารที่สร้างพลังชีวิตไม่ได้จำกัดอยู่เพียงผักสด
ข้าวกล้อง ต้นอ่อน เท่านั้น
แต่แมคโครไบโอติกส์ยังให้ความสำคัญกับเอนไซม์และจุลินทรีย์ด้วย
ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าในสำรับอาหารแมคโครไบโอติกส์ จะต้องมีกิมจิ
หรือผักดอง อยู่ด้วยเสมอ
ซึ่งนั่นก็มีลักษณะคล้ายกับวัฒนธรรมการกินของชาวอีสาน และคนภาคกลางในบางท้องถิ่งของเมืองไทย
ประโยชน์ของผักดองเหล่านี้
คือจะเป็นตัวช่วยย่อยอย่างดีสำหรับผู้ที่มีระบบย่อยไม่แข็งแรง ผู้ที่รับประทานผักสดไม่ได้ มีอาการอืด เฟือ
ผักดองจะช่วยลดอาการเหล่านี้
กรรมวิธีของการดองผักพวกนี้
ค่อนข้างสดใหม่ อย่างเช่น อาจาด
ผักเสี้นดอง หรือผักดองของชาวอีสาน เป็นต้น
ซึ่งนั่นย่อมแตกต่างจากผักดองจากโรงงานอุตสาหกรรมแน่นอน
เรื่องของดองเหล่านี้ยังรวมไปถึงมิโสะ น้ำปลา ซีอิ๊วหรือโชยุด้วย
สิ่งเหล่านี้ล้วนจะถูกนำมาปรุงอาหารบ่อยครั้ง ตามหลักการแล้ว เครื่องปรุงเหล่านี้ไม่ควรผ่านกรรมวีพาสเจอร์ไรส์ หรือการใช้สารกันบูด
ควรผลิตมาจากกรรมวิธีดั้งเดิมที่มีการคัดเชื้อจุลินทรย์ตามธรรมชาติ
เก็บในที่สะอาดอุณหภูมิที่เหมาะสม ซึ่งในส่วนตรงนี้ก็จะคล้ายกับการเก็บถั่วเน่า
เทมเป้ หรือแม้กระทั่งเต้าเจี้ยว ของชาวเหนือบ้านเรา ทั้งหมดนี้หากว่าผ่านกรรมวิธีการผลิตตามธรรมชาติแล้วก็จะถือว่าเป็นอาหารแมคโครไบโอติกส์เช่นกัน
หากจะสรุปโดยย่อ
เกี่ยวกับอาหารแมคโครไบโอติกส์ก็คงจะหมาถึง
“อาหารธรรมชาติที่ผ่านการปรุงแต่งเพียงเล็กน้อย หรือไม่ผ่านกรรมวีธี (Non-processing) เลย
เป็นการพยายามคงรูปเดิมไว้ให้มากที่สุด
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่เราควรคำนึงถึงไว้เสมอก็คือ
อาหารที่มีชีวิตนั้น บูดเน่าได้ แปรเปลี่ยน เป็นไปตามเงื่อนไขธรรมชาติ ส่วนอาหารที่ไม่เน่าเสีย คืออาหารที่ผิดธรรมชาติ
เรื่องของอาหารแมคโครไบโอติกส์ หรือบางคนก็เรียกอาหารเพิ่มพลังชีวิตก็แล้วแต่
นับว่าเป็นหนทางหนึ่งที่ล้างพิษให้แก่ร่างกาย
เป็นการทำให้ร่างกายของมนุษย์นั้น
ได้รับอาหารจากธรมมชาติแบบดั้งเดิมที่เป็นมา
ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายของมนุษย์เรานั้นแข็งแรง เข้มแข็ง และสะอาด บริสุทธิ์มากกว่าเดิม